รุด ฟาน นิสเตอรอยด์ กองหน้าสุดคมตำนานชาวดัตช์

หากย้อนไปในช่วงเปลี่ยนผ่านของพรีเมียร์ลีกที่ความยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มถูกตัดแบ่งให้กับทีมปืนใหญ่อาร์เซน่อลและเชลซี แต่ทว่าในช่วง 5 ปีนั้นถือเป็นปีที่ทีมปีศาจแดงมีกองหน้าตัวเก่งจากฮอลแลนด์ที่ชื่อว่ารุด ฟาน นิสเตอรอยด์ ซึ่งเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม ก่อนที่เขาจะมีโอกาสย้ายไปสโมสรรีล มาดริดและจบอาชีพที่สเปนนั่นเอง โดยตลอดอาชีพของเขาได้ทำประตูไปถึง 349 ลูกจากการเล่นทั้งหมด 592 นัดกับทุกสโมสรที่ผ่านมา รวมถึงการลงเล่นกับทีมชาติอัศวินสีส้มเนเธอร์แลนด์ ที่เขาก็โชว์ฟอร์มผลงานได้ดีเช่นเดียวกันแม้ว่าจะไม่เคยคว้ารางวัล ๆ ให้กับทีมเลยก็ตาม

กองหน้าผู้คว้าแชมป์สามลีกใหญ่

จุดเริ่มต้นของอาชีพนักเตะชาวดัตช์คนนี้เกิดจากสโมสรเล็ก ๆ อย่างเดน บอสช์ ก่อนจะไปประสบความสำเร็จในลีกสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์กับทีมเฮเรนวีนและพีเอสวี ไฮด์โอเฟ่นที่เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้สองสมัย โดยทำประตูไปถึง 77 ลูกจากการลงเล่นเพียง 90 นัดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาเป็นที่หมายปองของทีมดังทั่วยุโรปก่อนที่จะเป็นทางเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันที่คว้าตัวฟาน นิสเตอรอยด์มาสู่รังโอลด์ แทรฟฟอร์ดด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์

ผลงานของรุดกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถือเป็นจุดสูงสุดของอาชีพเขา หลังจากที่เขากลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมทันทีที่ย้ายมาสู่รังปีศาจ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของศึกพรีเมียร์ลีกในปี 2001/2002 และสามารถพาทีมเป็นแชมป์ลีกเหนือคู่ปรับอย่างอาร์เซน่อลไปได้ในปี 2003 พร้อมตำแหน่งดาวซัลโวประจำฤดูกาล น่าเสียดายที่การแข่งขันในพรีเมียร์ลีกขณะนั้นมีความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะทีมเชลซีที่ไต่เต้าขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ในเกาะอังกฤษเนื่องจากการเข้ามาบริหารของโรมัน อัมบราโมวิชนั่นเอง ทำให้รุดมีโอกาสคว้าแชมป์ลีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากใช้เวลาอยู่กับแมนยูนานถึง 5 ฤดูกาล ฟาน นิสเตอรอยด์ได้ออกไปหาความท้าทายใหม่กับทีมเจ้ายุโรปอย่างรีล มาดริด ก่อนที่เขาจะพาทีมได้แชมป์ลาลีกาสเปนถึง 2 สมัยด้วยกัน รวมถึงทำประตูได้ถึง 64 ประตูจากการลงสนามเพียง 96 นัดเท่านั้น

ผู้นำเกมรุกของอัศวินสีส้ม

เนื่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์มีทีเด็ดอยู่ที่กองหน้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำนานเพชรฆาตพรายกระซิบอย่างมาร์โก้ ฟาน บาสเทน แพททริค ไควเวิร์ตหรือแดนนิส เบิร์กแคม ทำให้รุด ฟาน นิสเตอรอยด์ได้รับดีเอนเอความคมมาเช่นกัน แม้ผลงานส่วนตัวของเขาจะดีมากก็ตาม แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นในรายการยูโร 2000 รวมถึงมีเรื่องราวขัดแย้งกับผู้จัดการทีมอย่างฟาน บาสเทนในช่วงปี 2006 จนทำให้เขาไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลโลก แต่โดยรวมแล้วเขายังทำประตูให้กับทีมชาติได้ถึง 35 ประตูจากการลงเล่นเพียง 70 นัดซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยจนน่าเสียดายเลยทีเดียว

สังเกตได้ว่าเขามีอาชีพที่ค่อนข้างขัดแย้งกันพอสมควร ทั้ง ๆ ที่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่มาอย่างมากมายกับสโมสรแต่ทว่าในนามทีมชาติกลับมีเรื่องวุ่นวายจนเขาไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร และหากว่าเขาไม่มีอาการบาดเจ็บและการทะเลาะกับผู้ใหญ่ในทีม แฟนบอลอาจจะได้เห็นทีมชาติเนเธอร์แลนด์ประสบความสำเร็จก็เป็นได้